วันจันทร์ 28 เมษายน 2568
ติดตามเว็บไซต์
หน้าแรก > ข่าวมุสลิม > ผู้นำสูงสุดอิหร่านจวกซาอุฯ เป็น “ฆาตกร” ฆ่าผู้แสวงบุญ-จี้โลกมุสลิมเพิกถอนสิทธิ์ดูแล “พิธีฮัจญ์”

ผู้นำสูงสุดอิหร่านจวกซาอุฯ เป็น “ฆาตกร” ฆ่าผู้แสวงบุญ-จี้โลกมุสลิมเพิกถอนสิทธิ์ดูแล “พิธีฮัจญ์”

หมวดหมู่ : ข่าวมุสลิม เปิดอ่าน 456 ครั้ง

Muslim pilgrims circle counterclockwise Islam's holiest shrine, the Kaaba, at the Grand Mosque in the Saudi holy city of Mecca, late on September 21, 2015. The annual hajj pilgrimage begins on September 22, and more than a million faithful have already flocked to Saudi Arabia in preparation for what will for many be the highlight of their spiritual lives. AFP PHOTO / MOHAMMED AL-SHAIKH (Photo credit should read MOHAMMED AL-SHAIKH/AFP/Getty Images)

เอเจนซีส์ – อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซาอุดีอาระเบียว่าบริหารจัดการพิธีฮัจญ์ผิดพลาด จนเป็นเหตุให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตไปหลายร้อยคนเมื่อปีที่แล้ว พร้อมเรียกร้องให้ชาติมุสลิมพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์ของริยาดในการดูแลพิธีฮัจญ์ ขณะที่ซาอุฯ ก็แถลงตอบโต้วันนี้ (6 ก.ย.) ว่าอิหร่านพยายามนำ “การเมือง” มาเชื่อมโยงกับพิธีกรรมทางศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์

“รัฐบาลอิหร่านไม่ยอมให้ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านเดินทางมาที่นี่ด้วยเหตุผลของพวกเขาเองทั้งสิ้น… อิหร่านพยายามนำการเมืองมาโยงกับพิธีฮัจญ์ และเปลี่ยนมันให้เป็นพิธีกรรมที่ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลาม ซึ่งอาจบั่นทอนความปลอดภัยของผู้ที่เดินทางมาทำฮัจญ์” สำนักข่าวเอสพีเออ้างพระราชดำรัสของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงตรวจดูความพร้อมก่อนที่พิธีฮัจญ์จะเริ่มในวันที่ 11 ก.ย.

ในฐานะผู้ดูแล 2 มัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ในนครมะดีนะห์และเมกกะ รัฐบาลซาอุฯ รับหน้าที่กำกับดูแลการประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เสาหลักของศาสนาอิสลามที่มุสลิมผู้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและกำลังทรัพย์จะต้องเดินทางไปให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต

ข้อมูลจากทางการซาอุฯ ระบุว่า ในปี 2015 มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตระหว่างพิธีฮัจญ์ทั้งสิ้น 769 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดถัดจากเหตุเหยียบกันตายในปี 1990 อย่างไรก็ตาม เมื่อนับรวมตัวเลขจากประเทศต่างๆ ที่รับศพพลเมืองของตนกลับ พบว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 2,000 คน และกว่า 400 คนเป็นชาวอิหร่าน

รัฐบาลอิหร่านได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ซึ่งระบุว่า “เนื่องจากผู้ปกครองซาอุฯ ได้ทำการกดขี่ต่อแขกของพระเจ้า (ผู้แสวงบุญ) โลกอิสลามจึงควรหันมาทบทวนเรื่องการบริหารจัดการ 2 มัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ และการประกอบพิธีฮัจญ์ อย่างจริงจัง”

“พวกชาวซาอุฯ เลือดเย็นเอาคนเจ็บไปรวมไว้กับคนตาย แทนที่จะรีบปฐมพยาบาลและช่วยเหลือพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ให้น้ำประทังความหิวกระหายก็ยังดี… พวกเขานั่นแหละที่เป็นฆาตกรฆ่าผู้แสวงบุญ”

“ชาติมุสลิมทั้งหลายต้องไม่ปล่อยให้ผู้ปกครองเหล่านี้ปฏิเสธความรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่พวกเขาได้ก่อขึ้นในโลกอิสลาม” คอเมเนอี กล่าว พร้อมพาดพิงเรื่องที่ซาอุฯ เข้าไปสนับสนุนขั้วตรงข้ามกับเตหะรานในสงครามอิรัก เยเมน และซีเรีย

ด้านริยาดก็โต้กลับว่า อิหร่านบั่นทอนความมั่นคงของบรรดารัฐอาหรับด้วยการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย เลบานอน อิรัก และเยเมน ทั้งยังปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบาห์เรนและซาอุดีอาระเบียด้วย ซึ่งรัฐบาลอิหร่านไม่ยอมรับข้อกล่าวหาเหล่านี้

อิหร่านโทษว่าเหตุที่ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายมากมายในปี 2015 เกิดจากความไร้ศักยภาพของซาอุฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพิธี และการเจรจาเรื่องโควตาผู้แสวงบุญที่ล้มเหลวไปในเดือน พ.ค. ส่งผลให้ชาวอิหร่านไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ได้ 

559000009236802

อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน (ซ้าย) และเจ้าชายโมฮาเหม็ด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ

ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ผู้นำสูงสุดอิหร่านจวกซาอุฯ เป็น “ฆาตกร” ฆ่าผู้แสวงบุญ-จี้โลกมุสลิมเพิกถอนสิทธิ์ดูแล “พิธีฮัจญ์” "

ปิดการแสดงความคิดเห็น