
ประกาศจุฬาราชมนตรี
เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎิ้ลฟิตร์ (ฉบับที่ 6/2563)
นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ออกประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎี้ลฟิตร์ (ฉบับที่ 6/2563)
โดยระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นการผ่อนปรนการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และมีมาตรการผ่อนปรนให้ดำเนินหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้โดยมีเงื่อนไขนั้น จึงพิจารณาเห็นควรให้มีการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฏิ้ลฟิตร์สำหรับมัสยิดที่มีความพร้อมในการปฏิบัติ ตามมาตรการที่กำหนดและอยู่ในพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยให้มัสยิดจัดเตรียมพื้นที่เปิด เช่น ลานมัสยิดรวมถึงพื้นที่ในอาคารมัสยิด อาคารเรียน ประจำมัสยิด ที่โล่งกว้าง หรือสนามกีฬาในชุมชน สำหรับละหมาดอีฏิ้ลฟิตร์ โดยให้ดำเนินมาตรการตามประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ณุมอะห์) และแนวทางปฏิบัติฉบับที่ 5/2563 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 อย่างเคร่งครัด ให้รีบปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎิ้ลฟิตร์ เมื่อเข้าเวลาและให้กระชับเวลาในการละหมาดและคุตบะห์ ไม่เกิน 20 นาที
หากมัสยิดใดไม่สามารถปฏิบัติตามข้อได้ ให้มัสยิดแจ้งสัปปุรุษละหมาดที่บ้านในลักษณะรวมกันเป็นครอบครัว จำกัดเฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น โดยไม่ต้องอ่านคุตบะห์ ให้มัสยิดงดการจัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้มาร่วมละหมาดและการจัดกิจกรรมอื่น ๆ รวมทั้ง ให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรมหรือการรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมาก เช่น การเยี่ยมญาติ การเยี่ยมกุโบร์ (สุสาน) และการจัดเลี้ยงอาหารในเคหสถาน หากมีความจำเป็นให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการและประกาศจุฬาราชมนตรีอย่างเคร่งครัด
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ประกาศจุฬาราชมนตรี มาตรการและข้อผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎิ้ลฟิตร์ "