หลังเกิดการริเริ่มนโยบายกีกกันผู้อพยพไม่ให้เข้าประเทศ จนกระทั่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนัดหยุดงานและปิดร้านทั่วสหรัฐฯ เพื่อประท้วงโดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่มีชื่อว่า#daywithoutimmigrant (วันที่ไม่มีผู้อพยพ)
ทั้งนี้ผู้ประท้วงต้องการแสดงจุดยืนที่ชี้ชัดว่า นโยบายจากประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมสหรัฐฯ เนื่องจากไม่มีตัวขับเคลื่อนธุรกิจที่มีความสำคัญ เนื่องจากขาดแรงงานในการประกอบกิจการ โดยแกนนำกิจกรรม #daywithoutimmigrant ระบุว่า ประเทศสหรัฐฯ จะคงอยู่ต่อไปได้ต้องอาศัยผู้อพยพเช่นกัน
ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีร้านขายของชำของชาวเยเมนพากันปิดทั่วนิวยอร์กซิตี้เพื่อประท้วงต่อต้านคำสั่งพิเศษห้ามเดินทางของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันคำสั่งดังกล่าวถูกศาลสั่งระงับชั่วคราว ขณะที่โดนัลด์ทรัมป์ ได้กล่าวโทษศาลและพยายามผลักดันมาตรการดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์นี้
รวมไปถึงกลุ่ม #Strike4democracy หรือ “นัดหยุดงานเพื่อประชาธิปไตย” ที่เคลื่อนไหวด้วยการนัดหยุดงานและงดการออกไปใช้จ่ายในวันที่ 17 ก.พ. เพื่อต่อต้านรัฐบาล อย่างไรก็ตามในเดือน มี.ค.นี้จะมีการประท้วงใหญ่ในชื่อ “วันที่ไม่มีผู้หญิง”
นิตยสารในสหรัฐฯ ระบุว่า ธุรกิจร้านอาหารที่ให้การสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีบางร้านที่เสิร์ฟแต่เครื่องดื่มโดยไม่เสิร์ฟอาหาร เพื่อยืนยันว่าพวกเขาเปิดครัวไม่ได้หากไม่มีผู้อพยพ
อย่างไรก็ตามผลสำรวจของศูนย์วิจัยพิวระบุว่า มีจำนวนกลุ่มผู้อพยพที่อพยพเข้าเมืองโดยไม่มีเอกสารอนุญาต (undocumented immigrants) ทำงานเป็นลูกจ้างในอุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหารร้อยละ 9 ในสหรัฐฯในปี 2557
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ร้านอาหาร ปิดประท้วง’ทรัมป์’กีดกันผู้อพยพจนขาดคนทำงาน !! "